การเปรียบเทียบในครั้งนี้ เราจะนำ
NEW HS รุ่น
X ที่มีราคาจำหน่าย
1,159,000 บาท ถือว่าเป็นรุ่นท็อปมาเปรียบเทียบกับ
New HS PHEV รุ่น
X ราคาจำหน่าย
1,379,000 บาท ที่เป็นรุ่นท็อปเช่นกัน จะได้เห็นชัดๆ ว่าราคาที่ต่างกันถึง
220,000 บาท นี่ทั้ง
2 รุ่นแตกต่างกันยังไง

ล้อ
New HS และ ล้อ
New HS PHEV ขนาด
18 นิ้ว
ด้านมิติและน้ำหนักมีจุดที่ต่างกันเล็กน้อยนั่นก็คือถังน้ำมันของ
New HS จะจุได้ถึง
55 ลิตร ส่วน
New HS PHEV จะมีความจุเพียง
37 ลิตร เพื่อลดขนาดเพิ่มพื้นที่ให้กับแบตเตอรี่ของระบบไฮบริด แล้วถึงแม้ทั้ง
2 รุ่นจะใช้ล้ออัลลอย ขนาด
18 นิ้ว กับยางไซส์
235/50R18 เหมือนกันแต่จะเป็นล้อคนละลาย
ส่วนเครื่องยนต์ทั้ง
2 รุ่นจะใช้เครื่องยนต์พื้นฐานตัวเดียวกันนั่นคือเครื่องยนต์
1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้กำลัง
162 แรงม้ากับแรงบิด
250 นิวตันเมตร แต่
New HS PHEV จะเพิ่มระบบไฮบริดที่ให้กำลัง
122 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้า กับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุ
16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้ในรุ่น
PHEV จะพละกำลังรวมสูงกว่า
New HS โดย
New HS PHEV จะมีกำลังรวมถึง
284 แรงม้าซึ่งมากกว่า
New HS อยู่ถึงเกือบเท่าตัว อีกทั้งระบบเกียร์ก็ต่างกัน โดย
New HS จะเป็นเกียร์
Twin Clutch Sportronic Transmission (TST) 7 สปีด ส่วน
PHEV จะเป็น
EDU II 10 สปีด
ส่วนอุปกรณ์ภายนอกนั้นไม่แตกต่าง โดยจะมีไฟหน้าแบบ
LED ที่มีระบบปรับระดับไฟหน้าขึ้น-ลง
, ระบบควบคุมการเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมไฟ
Daytime Running Lights, ไฟ
Welcome Lights ส่วนไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่
3 ก็เป็นแบบ
LED โดยจะมีระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
, ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
, หลังคา
Panoramic Sunroof, สปอยเลอร์หลัง
,ราวหลังคา และฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า
ด้านอุปกรณ์ภายใน และความสะดวกสบาย สิ่งที่เหมือนกันก็คือสีภายในแบบทูโทน ขาว-น้ำเงิน
, ไฟ
Ambient Light, ปุ่มปรับโหมดการขับขี่ พร้อมปุ่ม
Super Sport, แป้นเหยียบแบบ
Sport, หน้าจอแสดงผล
Interactive Multi-Function Display ขนาด
12 นิ้ว
, กระจกไฟฟ้าแบบ
One Touch, กระจกมองหลังตัดแสง
, แอร์อัตโนมัติแบบ
Dual Zone พร้อมระบบกรองอากาศ
PM 2.5, ระบบกุญแจ
Smart Key พร้อม
Push Start
แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ
New HS จะมีระบบ
Paddle Shift เพิ่มเข้ามาในขณะ
PHEV จะมีโหมดรีไซเคิลพลังงาน หรือ ระบบ
KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ
ด้านระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากลสูงสุดถึง
26 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัย เชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรก และช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ จำนวน
14 ระบบ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ
Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทั้งด้านหน้าและด้านท้ายรถ ซึ่งเทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่
2 (Autonomous Level 2) รวมกันกว่า
12 ระบบ และระบบปฎิบัติการอัจฉริยะ
i-SMART ทั้ง
Smart Check หรือ ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ
, Smart Command หรือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ และ
Smart Connect หรือ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ
เหลือในจุดสุดท้ายก็คือระบบเครื่องเสียง สิ่งที่ทั้ง
2 รุ่นได้เหมือนกันคือ ระบบควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับสาย-วางโทรศัพท์บนพวงมาลัย
, หน้าจอสัมผัสขนาด
10 นิ้ว และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ และ
USB แต่ส่วนที่ต่างกันคือ
New HS จะได้ลำโพง
6 จุด ในขณะที่
PHEV จะได้ลำโพง
8.1 จุด กับระบบเสียง
BOSE Sound System