4 ข้อแนะนำง่ายๆสำหรับคุณผู้หญิงให้ใช้ยางรถยนต์ได้ปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด
พิมพ์หน้านี้

4 ข้อแนะนำง่ายๆสำหรับคุณผู้หญิงให้ใช้ยางรถยนต์ได้ปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด

เพิ่มเพื่อน

สาวๆ หลายคนอาจจะมีประสบการณ์การใช้รถที่ต่างกัน แต่รู้หรือไม่สิ่งที่ทำให้รถขับเคลื่อนถ้าขาดสิ่งนี้ไปคงไปไม่ถึงเส้นชัยแน่นอน! (ขาดเธอฉันคงขาดใจ) ก็ "ยาง" นี่ไง ขาดไปคงไปไหนไม่ได้แน่ๆ แถมสวยๆ อย่างเราถ้ายางแตกจะให้กระโดดโยกน๊อต อุ้มยางอะไหล่ ก็กระไร เอาเป็นว่ามาดูข้อแนะนำง่ายๆ และการดูแลยางกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง safety first

รถยนต์ทุกคันไม่ว่าจะเป็นรถอเนกประสงค์ รถเก๋งซีดาน รถปิคอัพหรือจะรถเพื่อการพาณิชย์ รวมไปจนถึงรถสปอร์ตแบบซูเปอร์คาร์ ย่อมมีสิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวตัวรถให้สามารถวิ่งไปบนท้องถนนได้อย่างนุ่มนวลและปลอดภัยนั่นคือ "ยาง" เพราะยางรถยนต์คือ อุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่จะสัมผัสระหว่างรถและถนน แต่ก็มักเป็นอุปกรณ์ที่โดนละเลยมากที่สุดโดยเฉพาะสำหรับคุณผู้หญิง วันนี้เรามีข้อแนะนำ 4 ข้อ สำหรับคุณผู้หญิงที่อาจไม่มีเวลา หรือไม่ค่อยเข้าใจกลไกรถยนต์มาให้ดูกันครับ
 Bridgestone_Tyre-Clinic_Tyre-Safety_8.jpg
1. ยางรถยนต์สำคัญอย่างไร
  1. รับน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุก - รถยนต์ 1 คัน จะหนักประมาณ 1.6 ตัน หรือเทียบเท่ากับคน 32 คน ซึ่งความดันลมในยางจะเป็นตัวช่วยในการรับน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกเหล่านี้ไว้ทั้งหมด
  2. ลดแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนจากพื้นถนน - ลมในยาง จะทำหน้าที่เหมือนปริงช่วยลดแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนจากพื้นถนนในขณะขับขี่
  3. เป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนทิศทางการขับขี่ - ในการหมุนพวงมาลัยจะทำให้ยางล้อหน้าหมุน จึงทำให้รถสามารถมุ่งไปในทิศทางที่ต้องการได้
  4. เป็นตัวกลางในการขับเคลื่อนและหยุดรถ - ยางจะเป็นตัวกลางถ่ายทอดพลังการขับเคลื่อน และการหยุดรถลงสู่พื้นผิวถนน ทำให้รถสามารถเคลื่อนตัวหรือหยุดรถได้
P17_0257_a4_rgb.jpg
 
2.รู้หรือไม่..หน้ายางสัมผัสถนนนิดเดียวเท่านั้น!
หนายาง.jpgหนายาง-2.png
ยางรถยนต์ไม่ว่าจะรุ่นใดก็ตามเมื่อลงพื้นแล้วจะมีผิวหน้ายางที่สัมผัสกับพื้นถนนจริงๆ เพียง "ฝ่ามือ" เท่านั้น ดังนั้นการเลือกใช้ยางจึงต้องให้เหมาะสมกับประเภทของรถ ลักษณะการขับขี่และสภาพถนนที่ใช้ในชีวิตประจำวันบ่อยๆ นอกจากนี้ ยังต้องเลือกยางรถยนต์รุ่นที่มีเทคโนโลยีการออกแบบและผลิตที่ทันสมัย พัฒนากับการใช้งานในประเทศไทยจริงๆ ยิ่งดี
DSC_2258.jpg
 
 
 

3.ใช้ยางยังไง..ให้คุ้มค่า
เมื่อเสียเงินเปลี่ยนยางชุดใหม่มาแล้ว ถ้ามัวแต่ใช้แล้วไม่คอยดูแลรักษาดีๆ ก็มีอายุการใช้งานที่สั้น ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนอีก จึงต้องหมั่นดูแลให้ยางมีสภาพหรือคุณภาพของยางไม่ต่ำกว่า 70 % อยู่เสมอ แต่ถ้าคุณเป็นคนเลือกใช้ของให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย และเลือกใช้ยางดีๆ อย่าง “บริดจสโตน” มาเป็นยางคู่รถแล้วก็ควรศึกษาวิธีถนอมให้ยางมีอายุการใช้งานยาวนานคุ้มค่าเงิน ทั้งยังจะช่วยให้คุณมีความปลอดภัยไปด้วยควบคู่ไปด้วย และนี่คือ 4 คำแนะนำที่ช่วยได้

1. เช็คลมยางเป็นประจำ..เกือบทุกปั๊มต้องมี
วิธีที่ง่ายสุดล่ะ ในการยืดอายุยาง คือ หมั่นเช็คแรงดันลมให้เหมาะสม ไม่แข็งไปหรืออ่อนไป ศึกษาดูจากคำแนะนำของรุ่นยางในเว็บหรือโบร์ชัวร์ อย่าลืม! เรื่องการบรรทุกหรือจำนวนผู้โดยสารไปคิดด้วย การใช้ลมยางที่เหมาะสมช่วยให้การควบคุมทิศทาง การเบรก ทำได้ดีตามมาตรฐาน การสึกหรอก็เป็นไปตามระยะทางการใช้งานจริง ในทุกๆ เดือนแรงดันลมยางมักลดลง 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หรือ PSI แลที่สำคัญการเติมลมยางอย่างเหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย
2. สลับยางทุกๆ 8,000 - 10,000 กม.
รถส่วนใหญ่มีล้อขับเคลื่อนเพียง 2 ล้อ ไม่หน้าก็หลัง ทำให้การสึกหรอของยางชุดหน้า-หลังไม่เท่ากัน ถ้าเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า โดยล้อที่เป็นระบบขับเคลื่อนจะสึกหรอมากกว่า ต่อให้เป็นเป็นออลวีลไดร์ฟก็สึกหรอไม่เท่ากันทั้งหน้า-หลัง ด้วยน้ำหนักโหลดที่ไม่เท่ากันในแต่ละล้อ และการถ่ายกำลังที่ล้อไม่เท่ากัน การแนะนำให้สลับยางเพื่อให้ยางที่รับภาระขับเคลื่อนได้มีโอกาสพักหรือลดการสึกหรอต่อเนื่องนั่นเอง
3. อย่าลืม “ถ่วงล้อ” ด้วยนะ
ตอนที่เข้าไปสลับยางให้ถือโอกาสถ่วงล้อไปด้วยเลย ยางทุกเส้น ล้อทุกวง ต่างมีจุดทิ้งน้ำหนักไม่เท่ากัน ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ต่อให้เป็นของใหม่แกะห่อหรือกล่องก็ตาม แม้ความต่างเพียงน้อยนิดของในละจุด แต่ก็ทำให้ล้อกับยางแกว่งหรือสั่นตอนหมุน และด้วยเครื่องมือพิเศษในการถ่วงล้อทำให้ช่างรู้ว่าจุดไหนของล้อต้องแปะตะกั่วเพื่อถ่วงให้เหวี่ยงได้อย่างสมูธ ยิ่งเป็นยางใช้งานแล้ว การสึกหรอย่อมมีผลต่อสมดุลการเหวี่ยงไม่น้อย ไม่เหมือนตอนที่เป็นยางใหม่ เมื่อสลับจึงควรถ่วงใหม่
4. ควรตั้งศูนย์ปีละ 2 ครั้ง
ถ้าเริ่มรู้สึกว่ารถมีอาการดึงหรือแถซ้าย-ขวา พวงมาลัยเต้นโดยไม่ต้องเปิดเพลง แสดงว่ารถคุณอาจมีปัญหาเรื่องมุมล้อล่ะ ถ้าปล่อยไว้จนมุมล้อผิด..ชีวิตเปลี่ยน อย่าชะล่าใจแม้มันขับได้ปกติอยู่ก็ตาม ต่อให้มีอาการนิดหน่อย แต่นั่นอาจส่งผลสียตามมา เช่น ยางสึกไม่เท่ากัน, กินเชื้อเพลิงมากขึ้น นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ต้องตั้งศูนย์ปีละ 2 ครั้ง ก็เพราะเวลาขับรถมักจะเจอ เนินสะดุด, หลุมบ่อ ฯลฯ การเผชิญอุปสรรคเหล่านี้บนถนนบ่อยๆ ล้วนทำให้ค่ามุมล้อเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำควรตั้งศูนย์ล้อบ่อยๆ
จากคำแนะนำทั้งหมด คุณก็สามารถดูแล “ยาง” ได้ด้วยตนเองในเบื้องต้น หรือถ้ามีข้อสงสัยก็สามารถปรึกษาช่างผู้ชำนาญได้ตามศูนย์บริการหรือร้านค้าใกล้บ้าน ยิ่งถ้าใช้รถเดินทางบ่อย เน้นความปลอดภัย อยากประหยัดกับค่ายางชุดใหม่ ก็ลองทำตามที่แนะนำ ซึ่งไม่ยากเลย!

4. การดูแลยาง
1. เติมลมยางที่เหมาะสม - การเติมลมยางที่ถูกต้องจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การเติมลมที่มากไปหรือน้อยไป จะส่งผลให้ยางสึกหรอเร็วขึ้น ส่งผลถึงประสิทธิภาพในการควบคุมรถรวมทั้งสิ้นเปลืองน้ำมัน ให้ดูแรงดันลมยางตามคู่มือรถผู้ผลิตแนะนำเป็นหลัก
2. ตั้งศูนย์ถ่วงล้อได้ระนาบที่ถูกต้อง - ถ้ารถของคุณมีศูนย์ถ่วงล้อที่ผิดเพี้ยนไป จะทำให้ยางสึกหรอไม่เท่ากัน ทำให้ต้องเปลี่ยนยางเร็วขึ้น
3. สลับตำแหน่งยางสม่ำเสมอ - แรงกดต่อยางแต่ละเส้นนั้นไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับตำแหน่งของรถ ซึ่งนำไปสู่การสึกหรอของยางที่ไม่เท่ากัน การสลับยางอย่างสม่ำเสมอ (แนะนำโดยบริษัทผลิตรถยนต์ที่ทุกๆ 8,000 ถึง 10,000 กิโลเมตร)
4. ตรวจสอบความสมดุล - ยางและวงล้อที่ไร้สมดุลนำไปสู่อาการสั่นและการสึกหรอไม่เท่ากัน ซึ่งส่งผลให้การเดินทางของคุณขาดความนุ่มนวล และนำไปสู่การเปลี่ยนยางใหม่เร็วขึ้น
5. ความต้านทานต่อการหมุนต่ำ - แรงต้านทานต่อการหมุนมีค่าเท่ากับพลังงานที่ต้องใช้ในการทำให้ยางเคลื่อนที่ไปข้างหน้า จึงมีผลกระทบโดยตรงต่ออัตราการประหยัดน้ำมัน การเลือกยางที่มีแรงต้านทานในการหมุนที่ต่ำจะสามารถช่วยประหยัดพลังงานและน้ำมันได้

หากสนใจอยากจะเป็นเจ้าของรถซักคัน สามารถขอสินเชื่อออนไลน์ได้ที่
apply.pngLINE.png 

อย่าลืม!..คิดจะออกรถใหม่นึกถึงเรา ยื่นเรื่องง่าย อนุมัติไว วางใจ กรุงศรี ออโต้
เพิ่มเพื่อน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์ โทร. 0-2740-7400

ย้อนกลับ