Honda City รถซิตี้คาร์ที่มากับเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ
พิมพ์หน้านี้

Honda City รถซิตี้คาร์ที่มากับเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ

th-(1).png

สำหรับแบรนด์ Honda นั้นเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะรถซีดาน 4 ประตู ในกลุ่มซิตี้คาร์อย่าง Honda City ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียเมื่อปี พ.ศ. 2539  และได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เจเนอเรชัน 1 ถึง เจเนอเรชัน 4 ด้วยยอดขายสะสมใน 60 ประเทศทั่วโลกกว่า 4 ล้านคัน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็น City Type Z ในช่วงแรกนี้มีเครื่องยนต์ให้เลือกกันอยู่ 2 ตัวด้วยกันคือ 1.3 และ 1.5 ลิตร ต่อมาก็เป็นโฉม City ZX แล้วได้ทำการเปลี่ยนมาใช้เกียร์แบบใหม่ CVT 7 สปีด
 Honda_City_(third_generation)_(front),_Kajang.jpg
Honda City

Honda_City_(fourth_generation)_(front),_Serdang.jpg
Honda City ZX
จากนั้นก็ได้ปรับเปลี่ยนรูปทรงให้สวยขึ้นจนได้รับได้รับรางวัล Thailand Car of the Year 2009,2010 ในประเภทรถยนต์นั่ง ในรุ่นไม่เกิน 1,500 ซีซี แล้วก็ได้มีการปรับ Minorchange ออกมา แล้วก็ปล่อยชุดแต่ง Modulo ออกมาด้วยโดยเครื่องยนต์เป็น 1.5 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT พร้อมระบบ Paddle Shift 7 สปีด และมีเกียร์ธรรมดา 5 สปีดในรุ่นล่าง จนมาถึงรุ่นล่าสุดในประเทศไทย Honda City ที่ได้เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ใหม่ 1.0 ลิตร เทอร์โบ
 All-New-Honda-City-World-Premiere-07.jpg
 DSC_1720.jpg
 
Honda City โฉมนี้ได้รับความสนใจทันทีที่เปิดตัว เพราะนอกจากจะสวยจากทั้งดีไซน์ภายนอก ส่วนภายในห้องโดยสารก็กว้างขวาง ยิ่งและหรูหราเกินคลาส โดยเฉพาะเครื่องยนต์ได้เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ DOHC 3 สูบ VTEC เทอร์โบ 1.0 ลิตร หรือที่ความจุ 998 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยมถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ได้รับมาตรฐานไอเสียยูโร 5  ไม่เพียงเท่านี้ City โฉมนี้ยังมากับการติดตั้งนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ที่เรียกว่า Honda CONNECT (เฉพาะรุ่น RS) เป็นเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อตัวรถเข้ากับสมาร์ทโฟน เพื่อตรวจสอบสถานะรถยนต์และแสดงข้อมูลการขับขี่ ทำให้เจ้าของรถสามารถตรวจสอบสถานะรถยนต์ได้ตลอดเวลา
 All-new-Honda-City_Photo-7.jpg
 All-new-Honda-City_Photo-2.jpg
City RS
ส่วนดีไซน์ภายนอกมีการใช้ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ส่วนรุ่น RS จะได้แบบ LED  พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED, กระจังหน้าเป็นแบบโครเมียมในรุ่น S, V และ SV, ส่วนไฟตัดหมอกแบบ LED นั้นจะมีเฉพาะในรุ่น RS เท่านั้น และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว ในขณะที่ RS จะให้ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว
 DSC_2025.jpg
ด้านภายในห้องโดยสารติดตั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ  Apple CarPlay,ระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI ในรุ่น SV และ RS เท่านั้น ส่วนโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON และถุงลม 4 ตำแหน่ง จะมีอยู่ในรุ่น S, V และ SV ด้านรุ่น RS จะได้ม่ายถุงลมนิรภัยด้านข้างเพิ่มเติมมา, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)  พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD),  ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist - VSA), ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA) และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ ฯลฯ
 DJI_0048.jpg
Honda City มีให้เลือก 4 รุ่น ประกอบด้วย S (579,500 บาท), V (609,000 บาท), SV (665,000 บาท) และ RS (739,000 บาท)
สำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของรถ Honda City  สามารถขอสินเชื่อออนไลน์ได้ที่ด้านล่างนี้ หรือ คลิกเพื่อดูโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะการสมัครผ่านช่องทางออนไลน์
Submit-bt-yl.png LINE.png

อย่าลืม!..คิดจะออกรถใหม่นึกถึงเรา ยื่นเรื่องง่าย อนุมัติไว วางใจ กรุงศรี ออโต้
g.png

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์ โทร. 0-2740-7400
 

ย้อนกลับ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

+ ดูทั้งหมด