New Mitsubishi Xpander ระหว่างรุ่น GT และ GLS-LTD นั้นต่างกันอย่างไร
พิมพ์หน้านี้

New Mitsubishi Xpander ระหว่างรุ่น GT และ GLS-LTD นั้นต่างกันอย่างไร

สำหรับ New Xpender ที่ทาง บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทำการแนะนำลงสู่ตลาดไปในช่วงงานมอเตอร์โชว์นั้น ถึงแม้ไม่มีการประกาศราคาออกมาทันที แต่ก็ยังได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าที่กำลังสนใจรถแนวนี้ โดยภายหลังทาง มิตซูบิชิ ได้ประกาศราคาออกมา โดยในรุ่น GLS-LTD นั้นมีราคา 799,000 บาท และรุ่น GT ราคา 895,000 บาท แล้วอะไรที่ทำให้ราคาของ New Xpander ทั้ง 2 รุ่นถึงต่างกัน 96,000 บาท เราจะมาดูไปพร้อมๆ กัน
 
1.jpg 
รุ่น GLS-LTD
 
2.jpg
รุ่น GT
ก่อนอื่น New Xpander ทั้ง 2 รุ่น นั้นมากับดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมแบบรถครอสโอเวอร์ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกจากทั้งด้านหน้าและหลัง ซึ่งถูกออกแบบให้มีมิติด้วย Advanced Dynamic Shield ทำให้ดูโดดเด่นขึ้นกว่ารุ่นก่อนด้วยไฟหน้ารูปทรง T-Shape กับไฟหรี่ LED แบบคริสตัล พร้อมไฟท้ายรูปทรงเดียวกันซึ่งเป็นแบบ LED-illumination Tube
 
3.jpg
แต่ความต่างจะอยู่ที่ล้อของรุ่น GLS-LTD นั้นจะเป็นล้ออัยลอยขนาด 16 นิ้ว ที่มากับยางขนาด 195/65R16 ส่วนรุ่น GT นั้นจะได้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว แบบทูโทน ที่มากับยางขนาด 205/55R17 กับจะมีไฟตัดหมอกหน้ามาให้ ในขณะที่รุ่น GLS-LTD นั้นไม่มี ด้านมือเปิดประตูด้านนอกรุ่น GLS-LTD จะเป็นสีเดียวกับตัวรถ ส่วนคิ้วขอบกระจกประตูจะเป็นสีดำ แต่ในรุ่น GT จะเป็นสีโครเมียมทั้งหมด และเสาอากาศในรุ่น GT จะเป็นแบบครีบฉลามอีกด้วย
 
4.jpg
ด้านพละกำลัง New Xpander มาพร้อมอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม พร้อมการประหยัดน้ำมันจากเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 105 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Eco-Dynamic CVT ที่ให้การตอบสนองที่ต่อเนื่องนุ่มนวลตลอดทุกการขับขี่
 
5.jpg
ภายในห้องโดยสารได้รับการดีไซน์ใหม่ เน้นความพิถีพิถันทุกรายละเอียด ผสานแนวคิดการออกแบบ Horizontal Axis Design ทำให้ได้คอนโซลที่กว้างขวางมอบทัศวิสัยดีเยี่ยมให้กับผู้ขับ สำหรับสีภายในห้องโดยสารในรุ่น GLS-LTD จะเป็นสีดำ แต่ในรุ่น GT จะเป็นสีทูโทน (ดำ/น้ำตาล) ส่วนมาตรวัดการขับขี่แบบ High Contrast ดีไซน์ใหม่ แต่ในรุ่น GLS-LTD จะเป็นแบบมาตรฐาน ด้านระบบปรับอากาศรุ่น GT จะได้แบบดิจิตอลพร้อมฟังก์ชั่น Max Cool 
 
6.jpg
พวงมาลัย และหัวเกียร์ในรุ่น GT จะได้แบบหุ้มหนัง ส่วนระบบมัลติฟังก์ชั่นบนพวงมาลัยก็จะมีอยู่ในทั้ง 2 รุ่น นั่นคือสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง พร้อมปุ่มรับ-วางสาย แต่ก็มีแต่รุ่น GT เท่านั้นที่จะมีระบบ Cruise Control บนพวงมาลัยมาให้ช่วยเสริมความสะดวกสบาย สำหรับกุญแจในรุ่น GLS-LTD จะได้กุญแจรีโมท แต่รุ่น GT จะได้กุญแจอัจฉริยะ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์  ส่วนช่องเสียบ USB จะได้ 1 จุด สำหรับเชื่อมต่อความบันเทิงกับเครื่องเสียงด้านหน้าในรุ่น GLS-LTD แต่ถ้ารุ่น GT จะได้ช่องต่อ USB-A และ USB-C สำหรับชาร์จไฟ บริเวณแถวสอง
10.jpg
ส่วนเบาะนั่งจะได้เบาะผ้าในรุ่น GLS-LTD แต่รุ่น GT จะได้หนังสังเคราะห์พร้อมคุณสมบัติ สะท้อนความร้อน นั่งสบายตลอดการเดินทาง ทั้งยังได้ที่พักแขนบริเวณบริเวณคอนโซลกลางสามารถเก็บทิชชู่ได้เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายทุกการเดินทาง และถาดเก็บของอเนกประสงค์ใต้เบาะผู้โดยสารด้านหน้าแบบ 2-Way
 
7.jpg
สำหรับวิทยุ รุ่น GT จะได้หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่พร้อมรองรับ Bluetooth, Apple CarPlay และ Android Auto กับลำโพง 6 จุด แต่ รุ่น GLS-LTD จะได้เครื่องเสียงแบบ 2 DIN-วิทยุ, Bluetooth และ MP3 กับลำโพง 4 จุด
 
8.jpg
ด้านระบบความปลอดภัย New Xpander จะได้รับการออกแบบตัวถังด้านหน้าเพื่อช่วยลดความรุนแรงจากการกระแทกที่เกิดขึ้นกับคนเดินถนนให้น้อยลงหากเกิดอุบัติเหตุ ส่วนระบบต่างๆ ก็อัดแน่นมาให้สมกับเป็นรถครอบครัวอย่างแท้จริง และในรุ่น GT จะได้ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Break Auto Hold กับกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด
 
9.jpg
สำหรับผู้ที่สนใจรถ New Mitsubishi Xpander ทั้ง 2 รุ่น แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็ขอแนะนำให้ไปยังโชว์รูมของมิตซูบิชิ เพื่อชมรถคันจริงประกอบการตัดสินใจ 
 
ถ้า New Mitsubishi Xpander คือรุ่นที่คุณสนใจอยากออกในช่วงนี้ อยากรู้ว่ายื่นขอวงเงินพอมั้ย มาประเมินก่อนได้ที่
>> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<

ย้อนกลับ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

+ ดูทั้งหมด