Mercedes-Benz เปิดตัว 5 รุ่น รุกเซ็กเมนต์เอสยูวี และปลั๊กอินไฮบริด
พิมพ์หน้านี้

Mercedes-Benz เปิดตัว 5 รุ่น รุกเซ็กเมนต์เอสยูวี และปลั๊กอินไฮบริด

เพิ่มเพื่อน

Mercedes-Benz เปิดตัว 5 รุ่น รุกเซ็กเมนต์เอสยูวี และปลั๊กอินไฮบริด
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์สุกหรู เปิดตัวรถยนต์ถึง 5 รุ่น เพื่อรุกเซ็กเมนต์เอสยูวี และปลั๊กอินไฮบริด ได้แก่ 2 ยนตรกรรมเอสยูวีแบบ 7 ที่นั่ง GLS 350 d 4MATIC AMG Premium และ GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ พร้อมส่งครอสโอเวอร์สายพันธุ์แรงจากแบรนด์ Mercedes-AMG อย่าง GLC 63 S 4MATIC+ Coupé และ  GLC 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่ นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว E 300 e ยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดภายใต้แบรนด์ EQ

Mercedes-Benz_GLS_350_d_4MATIC_AMG_Premium_(1).jpg

Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium คือ ยนตรกรรมอเนกประสงค์พรีเมี่ยมแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งปัจจุบันเป็นเจเนอเรชันที่ 3 มาพร้อมขุมพลังดีเซล กับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ซึ่งถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อให้ได้อัตราเร่งที่ดีที่สุด นุ่มนวลที่สุด และช่วยให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยสามารถลดการใช้น้ำมันลงได้ถึง 6.5% พร้อมความปลอดภัยสูงสุด และความสะดวกสบายเช่นเดียวกับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ในตระกูล S-Class มีจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ที่ประกอบด้วยหลอดไฟ LED จำนวน 112 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม พร้อมกับไฟท้ายแบบ LED และล้ออัลลอยด์น้ำหนักเบาดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ 21 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีหลังคา Panoramic sliding sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ดีไซน์ภายในและห้องโดยสาร ได้รับการออกแบบให้กว้างขวางเพื่อรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 7 ท่าน ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 60 ม.ม. และยังมาพร้อมกับระบบ EASY-ENTRY ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการเข้าสู่ตำแหน่งที่นั่งแถวที่ 3 โดยเบาะและพนักพิงของที่นั่งแถวที่ 2 จะถูกพับขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า ทั้งยังมีระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) สามารถเปลี่ยนรูปแบบแสดงผลของหน้าจอเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการขับขี่ ใช้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยในรถยนต์ GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ยังมาพร้อมกับบริการ Mercedes me connect ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่อันโดดเด่นมากมาย ในราคา 8,859,000 บาท

MBTh_GLE_300_d_Photo_(1).jpg

Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ ยังคงยึดปรัชญาการออกแบบ Sensual purity โดยมีการปรับส่วนที่เป็นเหลี่ยมมุมต่างๆ  ชุดไฟหน้าอัจฉริยะแบบ MULTIBEAM LED ดึงดูดสายตาด้วย AMG Bodystyling รอบคัน ทั้งกันชนหน้า-กันชนหลัง-สเกิร์ตข้าง ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi-spoke ขนาด 21 นิ้ว ดีไซน์ภายในเป็นการผสานเข้าด้วยกันของความหรูหราและสง่างามตามแบบของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และความโฉบเฉี่ยว ดุดัน แข็งแกร่งแบบเอสยูวี ห้องโดยสารภายในตกแต่งด้วยโครเมียม เบาะนั่งแถวที่สองสามารถปรับองศาการเอนของพนักพิง และพับเบาะได้ง่าย ด้วยระบบไฟฟ้าแบบ 1/3 และ 2/3 พร้อมทั้งยังสามารถปรับเพิ่มพื้นที่วางขาได้มากถึง 69-1,049 มิลลิเมตร, ระบบความสะดวกสบายและการสื่อสาร มาพร้อมกับระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ทั้งจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital widescreen cockpit ขนาดใหญ่พิเศษ 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอต่อเนื่องกัน ให้คุณเข้าถึงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน รวมถึงระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® ในราคา 5,190,000 บาท

Mercedes-AMG_GLC_63_S_4MATIC-_Coupe_Exterior_(1).jpg

Mercedes-AMG GLC 63 S 4MATIC+ Coupé รถยนต์เอสยูวีคูเป้รุ่นล่าสุดจากค่าย Mercedes-AMG ภายนอกมีชุดแต่ง AMG bodystyling รอบคัน และกระจังหน้าแบบ AMG-specific radiator grille แนวตั้ง, ล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ขนาด 20 นิ้วน้ำหนักเบา มาพร้อมกับเทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED (หลอดไฟ LED ที่ทำงานอิสระจำนวน 84  หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม) ฝากระโปรงหลังยังมาพร้อมกับปีกแบบ AMG รวมถึงดิฟฟิวเซอร์สไตล์ใหม่ที่ช่วยพัฒนาการไหลเวียนของอากาศด้านหลังตัวรถ และหลังคาแก้วแบบ sliding sunroof ที่เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ภายในโฉบเฉี่ยวด้วยเบาะที่นั่ง AMG Performance seats หุ้มด้วยหนัง AMG nappa leather, พวงมาลัยแบบ AMG Performance Steering Wheel หุ้มด้วยหนังชนิด DYNAMICA microfibre ที่มีรูปทรงสปอร์ตท้ายตัดพร้อมกับปุ่ม AMG steering wheel button สามารถใช้คำสั่งหรือก้านควบคุมต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น GLC 63 S 4MATIC+ Coupé มีระบบกันสะเทือนแบบ air suspension ที่จะทำงานร่วมกับระบบ AMG RIDE CONTROL+ ควบคุมผ่านระบบ AMG DYNAMIC SELECT นอกจากนี้ยังมีระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดของเกียร์หลักได้ 5 แบบ คือ C (Comfort), S (Sport), S+ (Sport Plus)  และ I (Individual) ทั้งยังมีโหมด RACE สำหรับผู้ที่ต้องการความแรงและเกียร์ที่เปลี่ยนได้รวดเร็วเหมือนอยู่ในสนามแข่ง ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถกำหนดเองได้ด้วยการกดปุ่ม M (Manual) ทั้งนี้ Mercedes-AMG GLC 63 S 4MATIC+ Coupé มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ V8 ขนาด 4 ลิตร พร้อมเทอร์โบคู่ด้วยเทคนิคการติดตั้งเทอร์โบแบบ Hot inside V กับระบบส่งกำลังแบบ AMG SPEEDSHIFT MCT 9G Sport Transmission ที่ช่วยทำให้รถมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น ในราคา 10,790,000 บาท

Mercedes-AMG_GLC_43_4MATIC_Coupe_FL_(1).jpg

Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศ รถยนต์เอสยูวีคูเป้รุ่นล่าสุดโฉมใหม่ มาพร้อมชุดตกแต่ง AMG bodystyling รอบคัน ลงตัวด้วยกระจังหน้าแบบ AMG-specific radiator grill ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้านท้ายด้วย AMG Spoiler-lip, ปลายท่อไอเสีย 2 ท่อ แบบ  4-pipe look, ท่อไอเสียแบบ AMG Performance exhaust system, ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน คาลิปเปอร์เบรกสีเทาพร้อมสัญลักษณ์ AMG และระบบกันสะเทือนแบบ AMG RIDE CONTROL+ air suspension พร้อมการปรับแต่งแบบ AMG sports ซึ่งมาช่วยเสริมความดุดันให้กับรถยนต์รุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี ภายในโดดเด่นด้วยเบาะที่นั่งหุ้มหนังแบบ AMG Sport seat ตัดสลับ DINAMICA microfibre ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง เพิ่มความเร้าใจด้วย AMG Carbon-fibre trim, ระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) พร้อมหน้าจอระบบสัมผัส หน้าจอเรือนไมล์แบบ All Digital instrument display ขนาด 10.25 นิ้ว และบริการ ‘Mercedes me connect’ ด้านเทคโนโลยี มาพร้อมกับระบบปรับรูปแบบขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AMG Performance 4MATIC และระบบความปลอดภัยอันล้ำสมัยมากมาย, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé โฉมใหม่ มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G และเครื่องยนต์แบบ V6 เทอร์โบคู่แบบ Biturbo ที่มีจุดเด่นในเรื่องระบบแรงดันเสริมท่อสำหรับนำอากาศของชุดเทอร์โบ (boost pressure) ส่งผลให้สามารถเพิ่มแรงม้าอยู่ที่ 390 แรงม้า ที่  6,100 รอบ/นาที และแรงบิดอยู่ที่ 520 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500-5,000 รอบ/นาที ในราคา 4,990,000 บาท

Mercedes-Benz_E_300_e.jpg

Mercedes-Benz E 300 e รุ่นประกอบในประเทศ มาพร้อมกับความโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะจากเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดผสานกับพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ควบคู่กับประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นของแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชนิดใหม่ที่สามารถประจุไฟฟ้าได้มากกว่าเดิม ส่งผลให้ระยะทางสูงสุดสำหรับการขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวเพิ่มขึ้นจากเจนเนอเรชั่นก่อนหน้าถึง 60% และช่วยให้อัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในโหมดไฮบริดเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยรถยนต์รุ่นนี้นำเสนอทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ E 300 e Avantgarde, E 300 e Exclusive และ E 300 e AMG Dynamic ภายนอกได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปท์ Sensual Purity สง่างามด้วยกระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียม, ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ในรุ่น E 300 e AMG Dynamic และ E 300 e Exclusive พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ส่วนรุ่น E 300 e Avantgarde มากับไฟหน้าแบบ LED High Performance ด้านภายในยังได้มอบความหรูหราและความสะดวกสบาย ด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO ในรุ่น E 300 e Avantgarde และ E 300 e Exclusive และเบาะหุ้มหนัง nappa ในรุ่น E 300 e AMG Dynamic , จอแสดงผลความละเอียดสูงแบบแบบ Digital widescreen cockpit ระบบ Audio 20 GPS พร้อมจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมเพิ่มสุนทรียภาพในการโดยสารด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สีอีกด้วย ด้านระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยี ของ The new E 300 e มีทั้งระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (PRE-SAFE® system) โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist, ระบบรักษาความเร็วและจำกัดความเร็ว, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ฯลฯ โดย Mercedes-Benz E 300 e ยังมาพร้อมกับบริการ ‘Mercedes me connect’ ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้มากยิ่งขึ้น Mercedes-Benz E 300 e ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 1,991 ซีซี ที่ให้ พละกำลังสูงถึง 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที และมีแรงบิด 350 นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบ 1,200 – 4,000 ต่อนาที และเมื่อผสานพลังกับมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง 122 แรงม้า จะทำให้ได้ System Output สูงสุดถึง 320 แรงม้าที่ 4,500 – 5,500 รอบ/นาที และมีแรงบิดถึง 700 นิวตัน-เมตร ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะแบบใหม่ (9G-TRONIC) ทั้ง 3 รุ่นมีราคาดังนี้ E 300 e Avantgarde ราคา 3,510,000 บาท, E 300 e Exclusive ราคา 3,760,000 บาท และ E 300 e AMG Dynamic 4,090,000 บาท
พร้อมกันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังได้เปิดตัว LINE Official Account ในชื่อ Mercedes-Benz Thailand (@mercedesbenzth) เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสารและให้บริการลูกค้า อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นรถต่างๆ, บริการค้นหาผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ, บริการจองคิวทดสอบรถ, บริการทางการเงิน ไปจนถึง การอัพเดทข้อมูลกิจกรรม และข้อเสนอพิเศษต่างๆ

สำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของรถ Mercedes-Benz ทั้ง 5 รุ่น สามารถติดต่อขอสินเชื่อรถเหล่านี้ได้ที่ กรุงศรี ออโต้ ให้บริการโดย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ติดต่อ กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์ โทร. 0-2740-7400และติดตามโปรโมชั่นรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติม  รายละเอียดตามลิงก์ด้านล่างนี้ https://www.krungsriauto.com/auto/Promotion/NCpromo_2019.html


หากสนใจอยากจะเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz ทั้ง 5 รุ่น สามารถขอสินเชื่อออนไลน์ได้ที่
apply.pngLINE.png 

ดูโปรโมชั่นออนไลน์ของ กรุงศรี นิว คาร์ คลิก ขอสินเชื่อกรุงศรี นิว คาร์ ออนไลน์ เลือกของกำนัลที่ใช่ ใช้ได้จริง มูลค่า 2,000 บาท

อย่าลืม!..คิดจะออกรถใหม่นึกถึงเรา ยื่นเรื่องง่าย อนุมัติไว วางใจ กรุงศรี ออโต้
เพิ่มเพื่อน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์ โทร. 0-2740-7400

ย้อนกลับ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

+ ดูทั้งหมด