กรุงศรี ออโต้ - The Life Saver แจกหมวกกันน็อกเด็ก
พิมพ์หน้านี้

กรุงศรี ออโต้ - The Life Saver แจกหมวกกันน็อกเด็ก

กว่า 10 ปี แห่งความรับผิดชอบต่อสังคม… เพราะความปลอดภัยบนท้องถนนเริ่มต้นที่ตนเอง

กรุงศรี ออโต้ ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นปลูกฝังความรับผิดชอบผ่านแคมเปญ LET’sponsible (เล็ทส์-พอน-ซิ-เบิ้ล) ความรับผิดชอบที่เราทุกคนสามารถเริ่มได้จากตนเอง และร่วมปลูกฝังความรับผิดชอบนี้ไปยังคนใกล้ชิด จนขยายความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนน ที่ยังคงเป็นประเด็นสำคัญในระดับประเทศ
กรุงศรี ออโต้ ได้สร้างความตื่นรู้ผ่านวิดีโอ (VDO) เพื่อสื่อสารกับผู้ใช้รถ ใช้ถนน และได้รับความสนใจในวงกว้างหลายชุด อาทิ
  • ปี พ.ศ. 2560 วิดีโอคลิปชุด “เบี่ยงซ้าย ขยับชิด ร่วมเปิดทาง” แนะแนวการเปิดทางให้รถฉุกเฉินผ่านได้สะดวก แม้ในสภาพการจราจรที่หนาแน่น ซึ่งได้รับความกรุณาจากทางรัฐสภาช่วยเผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ อาทิ รถไฟฟ้าบีทีเอส และสื่ออื่น ๆ ซึ่งได้รับการพูดถึง-ส่งต่อกันเป็นวงกว้าง และได้รับการเผยแพร่ในกิจกรรมรณรงค์ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
  • ปี พ.ศ. 2562 วิดีโอคลิปชุด “ไฟท้ายดับ ชีวิตดับ” ชี้ให้เห็นถึงอันตรายของการละเลยไม่เปลี่ยนหลอดไฟท้ายรถจักรยานยนต์ และเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “เปลี่ยนไฟท้ายฟรี” โดยจัดขึ้นร่วมกับภาคีผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำ 12 แบรนด์ เปลี่ยนหลอดไฟท้ายไปกว่า 20,000 คัน รณรงค์ให้เปลี่ยนไฟท้ายมอเตอร์ไซค์ที่ชำรุด ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
โดยในปี 2568 กรุงศรี ออโต้ ได้สานต่อโครงการ LET’sponsible (เล็ทส์-พอน-ซิ-เบิ้ล) ส่งต่อความปลอดภัยให้เด็กไทย กับโครงการ "กรุงศรี ออโต้ - The Life Saver“ (เดอะ ไลฟ์ เซฟเวอร์) เพราะทุกชีวิตมีค่า… กรุงศรี ออโต้ ขอร่วมสร้างวินัยจราจร และความปลอดภัย ให้กับเด็กไทย อายุ 4-12 ปี ด้วยการรณรงค์สวมหมวกกันน็อกทุกครั้งที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ พร้อมส่งมอบหมวกกันน็อกเด็ก จำนวน 1,000 ใบ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยของรัฐสภา จำนวน 500 ใบ และ กรมการขนส่งทางบก จำนวน 500 ใบ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา (คลิกเพื่อดูข่าวสาร)
สำหรับประชาชนทั่วไป และลูกค้าปัจจุบัน กรุงศรี ออโต้ สามารถลงทะเบียนรับหมวกกันน็อกได้แล้วที่ แอป โก บาย กรุงศรี ออโต้ ได้ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2568 ถึง 10 สิงหาคม 2568

CTA_Regesitration.png
QR-kautolink-com_yg4vdj_Deeplink-Register-(1).png

App-Store-(1).png  GG-play-(1).png


 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์ โทร. 0-2740-7400
กติกาและวิธีการลงทะเบียน เพื่อรับหมวกกันน็อกเด็กกับ กรุงศรี ออโต้ (Term & Condition)
 
  • ท่านสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับหมวกกันน็อกเด็ก ได้ทาง แอป โก บาย กรุงศรี ออโต้
  • กรอกข้อมูล และอัปโหลดเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อยืนยันความสัมพันธ์กับบุตรธิดา
  • ผู้ลงทะเบียนต้องเป็นบิดา-มารดาของเด็กเท่านั้น
  • อัปโหลดเอกสารดังนี้
  1.  สูติบัตร หรือทะเบียนบ้านของเด็ก หน้าที่มีชื่อบิดา-มารดา (ใช้เอกสารอย่างใดอย่างหนึ่ง)
  2. บัตรประชาชนของบิดา-มารดา
(หากบัตรประชาชนมีข้อมูลศาสนา และหมู่เลือด กรุณาขีดทึบข้อมูลดังกล่าวก่อนทำการอัปโหลด)
Change-Address-Example_1.jpg
  • จำกัดสิทธิ์ 1 หมายเลขบัตรประชาชนเด็กต่อหมวกกันน็อก 1 ใบ
  • กรุงศรี ออโต้ ขอสงวนสิทธิ์เฉพาะบุคคลที่มีสัญชาติไทย และ เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2556-2564 (อายุ 4-12 ปี) เท่านั้น
  • หมวกกันน็อกมูลค่า 450 บาทต่อใบ
  • หากพบว่ามีการลงทะเบียนซ้ำหรือให้ข้อมูลเท็จ กรุงศรี ออโต้ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกสิทธิ์การรับหมวกกันน็อก
  • กรุงศรี ออโต้ ขอสงวนสิทธิ์มอบหมวกกันน็อกให้กับผู้ที่กรอกข้อมูลถูกต้อง, เอกสารครบถ้วนและมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่ กรุงศรี ออโต้ กำหนดเท่านั้น
  • กรุงศรี ออโต้ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือปฏิเสธการรับสิทธิ์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • หมวกกันน็อกที่ได้รับไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือทอนเป็นเงินสด หรือโอนเปลี่ยนมือให้แก่บุคคลอื่นได้ในทุกกรณี
  • สิทธิ์การรับหมวกกันน็อกมีจำนวนจำกัด สำหรับบุคคลทั่วไป จำนวน 3,000 ใบ และลูกค้าปัจจุบันของ กรุงศรี ออโต้ จำนวน 1,500 ใบ หรือจนกว่าของจะหมด
  • ลูกค้าปัจจุบันได้แก่ ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาทุกผลิตภัณฑ์สินเชื่อของ กรุงศรี ออโต้ และผลิตภัณฑ์ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ (ยกเว้นกรุงศรี ทรัค ประเภทนิติบุคคล และ กรุงศรี ฟลีท แอนด์ ลีสซิ่ง)
  • ระยะเวลาในการลงทะเบียนตั้งแต่ 10 มิ.ย. 2568 - 10 ส.ค. 2568
  • ประกาศรายชื่อผู้ได้รับหมวกกันน็อกผ่านทาง www.krungsriauto.com วันที่ 10 ก.ย. 2568
  • หมวกกันน็อกจะถูกจัดส่งตามที่อยู่ที่ท่านลงทะเบียนไว้ และการจัดส่งอาจใช้เวลาระยะเวลาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นที่
  • กรุงศรี ออโต้ ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อความล่าช้าหรือความเสียหายจากการจัดส่งโดยผู้นำส่ง
  • กรณีมีข้อโต้แย้ง การตัดสินของ กรุงศรี ออโต้ ถือเป็นที่สิ้นสุด และเงื่อนไขเป็นไปตามที่ กรุงศรี ออโต้ กำหนด
  • กิจกรรมนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • พนักงานธนาคารกรุงศรีอยุธยา จากัด (มหาชน) บริษัทในเครือ บริษัทตัวแทนโฆษณา และบริษัทที่เกี่ยวข้อง ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการนี้
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 0 2740 7400 หรือ www.krungsriauto.com หรือไลน์ @krungsriauto
เลือกหมวกกันน็อกเด็กที่ใช่ต้องดูอะไรบ้าง

    การเลือกหมวกกันน็อกสำหรับเด็ก ไม่ใช่แค่เรื่องของขนาดหรือดีไซน์ แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และคุณภาพที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเด็กจะได้รับการปกป้องสูงสุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยเมื่อต้องเลือกซื้อหมวกกันน็อกเด็กใหม่ ควรพิจารณาจาก 5 เกณฑ์ ดังนี้
  • ขนาดกระชับ รับศีรษะเด็ก: หมวกนิรภัยที่พอดีกับศีรษะสามารถช่วยลดโอกาสบาดเจ็บที่ศีรษะและสมองได้ถึง 69% และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ 39%[1] ดังนั้น เพื่อให้หมวกกันน็อกสามารถทำหน้าที่ป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ปกครองควรเลือกซื้อด้วยการวัดขนาดรอบศีรษะของเด็กในส่วนที่กว้างที่สุด บริเวณเหนือคิ้วประมาณ 1 นิ้ว (2.5 เซนติเมตร) หากรอบศีรษะที่วัดได้อยู่ระหว่างหมวกกันน็อก 2 ขนาด ควรเลือกหมวกที่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อความกระชับ อีกทั้ง ควรตรวจสอบอีกครั้งว่าไม่มีช่องว่างระหว่างหน้าผากกับหมวกที่สามารถสอดนิ้วเข้าไปได้และเมื่อเขย่าศีรษะเบาๆ หมวกไม่ควรขยับมากเกินไปหรือทำให้รู้สึกบีบรัดจนทำให้รู้สึกอึดอัด
  • มีสายรัดไว้ มั่นใจทุกเวลา: แม้หมวกกันน็อกจะพอดีกับศีรษะ แต่หากไม่มีสายรัดคาง หรือสายรัดไม่แน่นพอดี ก็อาจทำให้หมวกกันน็อกหลุดออกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น ผู้ปกครองควรตรวจสอบว่าสายรัดแน่นพอดี ไม่หลวมจนหมวกขยับได้ และไม่แน่นจนเกินไป พร้อมตรวจสอบให้มีระยะห่างระหว่างคางกับสายรัดไม่เกิน 1-2 นิ้วมือ เพื่อความสบายและปลอดภัย นอกจากนี้ สายรัดคางอาจคลายตัวหลังการใช้งาน ผู้ปกครองควรเช็กให้แน่ใจก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
  • เลือกหมวกให้โดนใจ เด็กเต็มใจหยิบใส่ทุกวัน: เด็กจำนวนมากไม่ยอมสวมหมวกกันน็อก เพราะรู้สึกอึดอัดหรือหมวกมีน้ำหนักมากเกินไป ด้วยเหตุนี้ การเลือกหมวกที่ระบายอากาศดีและน้ำหนักเบาจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยหมวกกันน็อกควรมีช่องระบายหลายจุด เช่น ด้านบนและด้านหลัง เพื่อลดความร้อนและเหงื่อสะสม นอกจากนี้ อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เด็กเต็มใจสวมใส่หมวกกันน็อก คือให้พวกเขามีส่วนร่วมในการเลือกหมวก โดยเลือกแบบที่มีสีสันสดใส หรือลวดลายที่เด็กชื่นชอบ
  • หมวกที่ดี ต้องมีมาตรฐาน: หมวกกันน็อกที่ดีควรผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น มอก. ซึ่งควบคุมโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ECE R22.05 (ยุโรป) ที่ทดสอบแรงกระแทก และการดูดซับแรงสะเทือน
  • หมวกเสื่อม เปลี่ยนใหม่ ปลอดภัยกว่า: หมวกกันน็อกมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 3-5 ปี หลังจากนั้นวัสดุอาจเสื่อมสภาพ อีกทั้งหากหมวกผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพราะโครงสร้างด้านในอาจเสียหายแม้ภายนอกจะไม่เห็นรอยแตกก็ตาม นอกจากนี้ สำหรับเด็กที่อยู่ในวัยที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้ปกครองควรหมั่นเช็กขนาดของหมวกทุก 6-12 เดือน หากหมวกกันน็อกเริ่มคับหรือเด็กบ่นว่าอึดอัด ควรเปลี่ยนขนาดให้เหมาะสม และที่สำคัญห้ามใช้หมวกกันน็อกมือสอง เพราะอาจมีรอยร้าวหรือเสื่อมสภาพจากการใช้งานก่อนหน้า ทำให้ความสามารถในการป้องกันลดลง และเพิ่มความเสี่ยงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
รู้หรือไม่:
  • เด็กที่นั่งด้านหน้าของผู้ปกครอง มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ศีรษะ/ใบหน้ามากกว่าเด็กที่นั่งด้านหลังถึง 2 เท่า
  • หมวกกันน็อกสามารถลดการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ 72% และความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ถึง 39%[2]
  • อุบัติเหตุของรถจักรยานยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็ว 48 กม./ชม. เปรียบเสมือนการตกจากอาคาร 3 ชั้น[3]
[1] ข้อมูลจากสํานักงานสวัสดิภาพกรมการขนส่งทางบก (สนภ.)
[2] ข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
[3] ข้อมูลจาก Zavodnick & Lasky สำนักงานทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านคดีบาดเจ็บส่วนบุคคล รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา

คลิก เพื่อดาวน์โหลด Infographic 
Infographic_Krungsri-Auto_Helmet-101_The-Life-Saver-(mini).jpg

ย้อนกลับ