นางกฤติยา ศรีสนิท (ที่สามจากซ้าย) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย นายพีรวัศ กุลนันท์วัฒน์ (ที่หนึ่งจากซ้าย) นายศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ (ที่สองจากซ้าย) นายจักรพงษ์ เมษพันธุ์ หรือ โค้ชหนุ่ม (ที่สี่จากซ้าย) และนายชาญวิทย์ บุญชิต (ที่ห้าจากซ้าย)
“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รวบรวมเคล็ดลับด้านการบริหารการเงินส่วนบุคคลและการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส จากงานสัมมนา Krungsri Auto $mart Finance 2020: ตอน ‘ปล่อยหมัด ซัดวิกฤตการเงิน’ ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนชื่อดัง ย้ำชีวิตวิถีใหม่ต้องไม่ประมาทและการ์ดอย่าตก ทั้งสุขภาพร่างกาย และ ‘สุขภาพการเงิน’ พร้อมถอด 3 รหัสลับ “สติ-วินัย-ไอเดีย” ช่วยป้องกันสุขภาพการเงินและปรับตัวอย่างเท่าทันต่อความเปลี่ยนแปลง
นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กรุงศรี ออโต้ เล็งเห็นถึงความสำคัญของภูมิคุ้มกันทางการเงินที่แข็งแกร่ง เราจึงได้จัดงานสัมมนาครั้งนี้ขึ้นเพื่อเสริมความรู้ด้านการเงินส่วนบุคคลที่เท่าทันต่อสถานการณ์ และจุดประกายความคิดทางธุรกิจแก่ลูกค้าและผู้ที่สนใจทั่วไป”
วิทยากรทั้ง 4 ท่านได้แนะนำ 3 รหัสลับ “สติ-วินัย-ไอเดีย” เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์อย่างมั่นคงในระยะยาว ดังนี้
1. ตั้งสติให้ดี เจรจาประนอมหนี้อย่างมีหลักการ: นายจักรพงษ์ เมษพันธุ์ หรือ โค้ชหนุ่ม กูรูด้านการเงินและการลงทุน ผู้มีประสบการณ์ฝ่าวิกฤตหนี้สินกว่า 18 ล้านบาทของครอบครัวครั้งเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ให้แง่คิดว่า คนที่จะแก้หนี้ได้นั้น คือคนที่มีสติและวางแผนเป็น เมื่อมีสติแล้ว ก็ต้องดูกระแสเงินสด เพื่อประเมินสภาพคล่องทางการเงิน หากมีรายได้ไม่ครอบคลุมรายจ่าย ก็ให้ดูว่าค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่พอจะลดลงได้ จากนั้นให้คุยกับคนภายในครอบครัว เพื่อช่วยกันทำงบรายรับรายจ่ายโดยทำล่วงหน้าสัก 6 เดือน จะช่วยให้ทุกคนก้าวไปข้างหน้าได้
/Jakkapong-Mespan-Money-Coach.JPG.html?width=500&height=348)
“ถ้าวันนี้คุณได้รับผลกระทบ ให้เอาเวลาไปมองหาทางออก ตอนนี้ที่สถาบันเงินการเงินยังมีความแข็งแกร่งและพร้อมให้ความช่วยเหลือ การเข้าไปเจรจากับคู่สัญญาหรือเจ้าหนี้อย่างมีสติและหลักการ โดยทำบัญชีแจกแจงรายรับรายจ่าย เอกสารงบการเงิน แผนการชำระหนี้ติดไปด้วย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประนีประนอม อย่าเสียเวลามานั่งตัดพ้อชีวิต หรือเทียบว่าปีไหนจะหนักหนากว่ากัน ใครที่คิดว่า ‘ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย บอกเลยว่า ไม่รอด’ หรือหากเป็นหนี้เสียไปแล้ว โครงการคลินิกแก้หนี้ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ยังเป็นอีกหนึ่งโอกาสสู่ทางรอดของคุณ”
2. อยากอยู่รอดและมั่นคง ต้องมีวินัยและวางแผน: นายพีรวัศ กุลนันท์วัฒน์ นักแสดงช่อง 7 ที่ใช้เวลาว่างจากงานนักแสดงและพิธีกรในช่วงล็อกดาวน์ มาขับรถรับส่งอาหาร เพื่อนำรายได้มาจัดการรายจ่ายประจำวันของครอบครัว กล่าวว่า “ผมโตมาโดยได้รับการปลูกฝังว่า อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา และจะถูกสอนเรื่องการวางแผนทางการเงินมาตั้งแต่เด็ก เวลาได้เงินมา ผมจึงแยกชัดเจนว่าส่วนไหนสำหรับไว้กินใช้ ส่วนไหนสำหรับเก็บออม ถึงแม้งานของผมตอนนี้ถือว่าโอเค ไม่ได้รับผลกระทบ แต่เราไม่มีทางรู้ว่าเศรษฐกิจแบบนี้จะอยู่กับเราไปอีกนานเท่าไหร่ มันมีปัจจัยมากมายที่เราไม่สามารถควบคุมได้ และยิ่งตอนนี้ผมเป็นหัวหน้าครอบครัว มีลูกและภรรยาที่ต้องดูแล ยิ่งต้องรู้จักวางแผน และประมาทไม่ได้”
/Peerawat_CH7-Actor_Covid-19-Disruption.JPG.html?width=500&height=348)
ขณะที่
นายศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ผู้ฝ่าวิกฤตปี 40 มาได้ด้วยใจสู้และการผันตัวมาขายแซนด์วิช ที่รู้จักกันดี ภายใต้ชื่อ “ศิริวัฒน์แซนด์วิช” แนะว่า “ยุคนี้ต้องรู้กินรู้ใช้ ถ้าคุณไม่ปรับตัวตอนนี้ หรือยังใช้เงินเกินตัว ปีหน้าอาจจะไม่เหลืออะไรแล้ว และหากคิดทำธุรกิจ อย่าเพิ่งลงทุนหน้าร้าน ถ้าคุณเจ็บ คุณจะเจ็บน้อย หากคุณรอด คุณจะคืนทุนไว เพราะไม่ต้องเสียค่าสถานที่ ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเริ่มอะไร ลองดูกระแสความสนใจของคนเสียก่อน สมัยผมล้มแรกๆ ธนาคารก็ไม่มีแรงช่วย แต่ตอนนี้ทุกธนาคารเขาพร้อมคุย มีผลิตภัณฑ์และรูปแบบความช่วยเหลือที่หลากหลาย การกู้เงินหากเป็นไปเพื่อโอกาสในการประกอบอาชีพ ผมสนับสนุนให้ทำเลย แต่ทุกอย่างต้องประเมินกำลังของตัวเองและวางแผนอย่างมีหลักการ”
3. ไอเดียธุรกิจแจ้งเกิด หาอาชีพเสริมเติมรายได้: ในขณะที่ ‘รายได้หลายทาง’ กำลังจะเป็น Now Normal หรือ เรื่องใหม่ที่กำลังกลายเป็นเรื่องปกติ และกลุ่มคนที่ต้องการหารายได้เสริมก็กล้าลองผิดลองถูกมากขึ้น
/Chanwit_Covid-19-Disruption.JPG.html?width=500&height=348)
ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง
นายชาญวิทย์ บุญชิต เจ้าของธุรกิจในจังหวัดร้อยเอ็ด หนึ่งในผู้ร่วมบรรยายในหัวข้อ ‘ล้มแล้วลุกในยุคโควิด-19’ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สามารถหาหนทางของตนเอง โดยนำรถสไตล์วินเทจมาต่อยอดไอเดียและสร้างความโดดเด่นให้ธุรกิจใหม่ หลังรายได้จากธุรกิจบาร์และร้านอาหารที่มีรายได้กว่าหลายแสนบาทต่อเดือนกลายเป็นศูนย์เพียงแค่ชั่วข้ามคืน “ร้านของผมที่อยู่ในเมืองต้องปิดชั่วคราว ตอนนั้นปัญหาที่เจอคือช่วงล็อกดาวน์คนออกจากบ้านไม่ได้ ทุกคนระวังเรื่องสุขภาพอนามัย รวมถึงระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น จึงเป็นที่มาของไอเดียร้านหมูกะทะเคลื่อนที่ เพราะหนึ่ง ผมต้องการนำความสะดวกไปให้ลูกค้า ซึ่งผมเองก็มีฐานลูกค้าจำนวนไม่น้อยอยู่นอกเมือง และสอง อาหารที่เราขายสอดคล้องกับความต้องการของพวกเขาที่ให้ความสำคัญกับอาหารสด สะอาด พร้อมปรุงและมีราคาย่อมเยา ทำให้ที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับดีมาก”
/Sirivat-Sandwich-(1).JPG.html?width=500&height=348)
อุบัติเหตุทางการเงินเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และไม่มีใครรู้แน่ว่าความไม่แน่นอนนี้จะยังอยู่กับเราไปอีกนานเพียงใด ผู้ที่จะรอดในวิกฤตนี้ คือผู้ที่เริ่มลงมือตั้งแต่วันนี้ ผ่านการจัดการตัวเอง เรียนรู้และปรับตัวอย่างเท่าทัน เลิกรอ และกล้าที่จะออกไปตามหาโอกาสใหม่ๆ
งานสัมมนา Krungsri Auto $mart Finance 2020: ตอน ‘ปล่อยหมัด ซัดวิกฤตการเงิน’ ภายใต้โครงการ กรุงศรี ออโต้ สมาร์ท ไฟแนนซ์ เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมตามแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบของ กรุงศรี ออโต้ ที่ริเริ่มและดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2552 ภายในงานสัมมนาครั้งนี้จึงได้มีการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live และยังได้จัดกิจกรรมเวิร์กช็อป “คลินิกการเงิน” ให้ลูกค้ากรุงศรี ออโต้ ที่ได้รับการคัดเลือกกว่า 50 คน ร่วมค้นหาตัวตน เพื่อเป้าหมายอาชีพที่ใช่และความมั่นคงทางรายได้ รวมถึงให้ความรู้ด้านการทำบัญชีรายรับ รายจ่ายส่วนบุคคลในขั้นต้นโดยจิตอาสากรุงศรี ออโต้ อีกด้วย
###