ถึงแม้ว่า Honda City Hatchback จะเปิดตัวมาสักระยะนึงแล้ว แต่ถึงอย่างไรมันก็มากับดีไซน์ตัวถัง 5 ประตูแบบแฮทช์แบ็ก พร้อมกับความโดดเด่นสไตล์สปอร์ตหรูหราของดีไซน์ภายนอก อีกทั้งยังตอกย้ำความสปอร์ตเร้าใจด้วยชุดแต่ง RS รอบคัน กับภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง และสามารถปรับพับเพื่อเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลายรูปแบบการใช้งาน
Honda City Hatchback นั้นมี 3 รุ่นย่อย S+ (ราคา 599,000 บาท), SV (ราคา 675,000 บาท) และ RS (ราคา 749,000 บาท) โดยทั้ง 3 รุ่นมากับเครื่อง 3 สูบ เทอร์โบ ที่ถือว่าแรงสุดในกลุ่ม ด้วยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 - 4,500 รอบต่อนาที
ด้วยราคาที่ต่างกัน แต่ละละรุ่นย่อยจะมีออปชั่นอะไรบ้างที่ต่างกัน? สำหรับ Honda City Hatchback จะมีอุปกรณ์พิ้นฐานที่มีให้ในทุกรุ่นย่อยกันก่อนได้แก่ สีตัวรถพื้นฐาน ได้แก่ เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก), เทาโซนิค (มุก) และดำคริสตัล (มุก) แต่รุ่น RS จะเพิ่มสี สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก), ขาวแพลทินัม (มุก) ส่วนรุ่น SV เพิ่มสี ขาวแพลทินัม (มุก) และรุ่น S+ เพิ่มสี ขาวทาฟเฟต้า โดยเฉพาะ
.jpg.html?width=500&height=374 "The-City-Hatchback_S-(1).jpg")
ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่แตกต่างกันก็คือ สำหรับรุ่น S+ จะได้ไฟหน้าโปรเจกเตอร์ ฮาโลเจน เปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟท้าย LED, กระจังหน้าโครเมี่ยม, สปอยเลอร์หลัง, มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า, ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา, ปัดฝนหลัง, เสาอากาศครีบฉลาม และล้อแม็ก 15 นิ้ว ส่วนภายในจะเป็นเบาะผ้า, ตกแต่ง Piano Black, เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำ, ปุุ่มPush Start, ประตูแบบ Smart key, ระบบ ldle Stop พร้อมสวิตช์ปิด-เปิด, พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง, จอแสดงข้อมูลขับขี่, ไฟระบบ Eco และปุ่ม ECON, ช่องจ่ายไฟ 1 ตำแหน่ง, กระจกมองหลังตัดแสง, บังแดดพร้อมกระจกฝั่งคนขับ, ไฟอ่านแผนที่, เบาะหลังอัลตรา ซีท 60:40 สำหรับเครื่องเสียง จะมี วิทยุ, เชื่อมต่อ Bluetooth, ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, USB 1 ตำแหน่ง, ลำโพง 4 ตำแหน่ง ด้านความปลอดภัยก็จะมี ถุงลมคู่หน้าและด้านข้างคู่หน้า, ควบคุมการทรงตัวทางโค้ง VSA, ช่วยออกตัวทางลาดชัน HSA, กุญแจ Immobilizer พร้อมกันขโมยและ ล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อรถเคลื่อนที่
สำหรับรุ่น SV จะปรับเปลี่ยนเป็นมือจับประตูโครเมี่ยม, กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า ส่วนภายในจะให้เบาะหนังแท้และสังเคราะห์, มือจับประตูด้านในโครเมี่ยม, แอร์อัตโนมัติ, มาตรวัดเรื่องแสงสีขาว, ที่เท้าแขนด้านหน้า กับเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว Advanced touch รองรับ Apple Carplay เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รองรับคำสั่งเสียง SIRI, USB 2 ตำแหน่ง ส่วนความปลอดภัยจะเพิ่มกล้องมองภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
และรุ่น RS ที่ถือว่าท็อปสุดของ Honda City Hatchback คือจะได้ ไฟหน้า LED, กระจังหน้าแบบ Gloss Black, กันชนหน้ากระจังหน้า RS, สปอยเลอร์หลังสีดำ, ไฟตัดหมอกหน้า LED, กระจกมองข้างสีดำ กับล้อแม็ก 16 นิ้ว ส่วนภายในจะได้เป็นหนังกลับ/ผ้า/หนังสังเคราะห์/ตกแต่งแถบสีแดง, Paddlle Shift, Cruise Control, ช่องจ่ายไฟสำรองด้านหน้า 1 ตำแหน่ง ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง, บังแดดพร้อมกระจกทั้งคนขับและคนนั่ง, ที่เท้าแขนเบาะหลังพร้อมช่องวางแก้วน้ำ ราวจับ 4 ตำแหน่ง ด้านเครื่องเสียงจะได้ลำโพง 8 ตำแหน่ง, Honda CONNECT ส่วนความปลอดภัยจะเพิ่มม่านถุงลมมาให้
ทีนี้มาตกที่คำถามที่ว่าซื้อรุ่นไหนคุ้มสุด? Honda City Hatchback นับเป็นรถยนต์สำหรับหนุ่มสาววัยเริ่มสร้างตัว หรืออาจเป็นรถยนต์คันแรกของใครหลายคน ด้วยราคาที่ไม่สูงนัก และมาพร้อมความความประหยัดในหลายด้านทั้งประหยัดน้ำมัน การดูแลรักษา หากต้องเลือกรุ่นย่อยที่คุ้มค่าที่สุด หากต้องการแค่รถยนต์ประหยัด เอาไว้ขับรับ-ส่งลูก ในระยะทางไม่ไกลนัก และไม่ต้องการใช้งานระบบต่างๆ ให้วุ่นวาย รุ่น S+ น่าจะตอบโจทย์มากที่สุด แต่หากมีความต้องการใช้งานระบบเทคโนโลยีการเชื่อมต่อต่างๆ และใช้งานระบบความสะดวกสบายที่ดีขึ้น ทั้งเครื่องเสียง ระบบแอร์ เบาะหนังที่ดูสปอร์ตและรักษาง่าย และกล้องมองด้านหลังก็ขยับขึ้นมาเป็น รุ่น SV ที่ราคายังไม่ทะลุเจ็ดแสนบาทนับว่ายังประหยัดและให้ออปชั่นที่คุ้มค่า แต่สำหรับคนชอบความเป็นที่สุด มาพร้อมชุดแต่งพิเศษและยังมีฟังก์ชั่นให้ ซน ด้วย Paddle shift เพิ่มขึ้นมารวมถึงให้ถุงลมนิรภัยเต็มระบบจริง ๆ และเทคโนโลยีที่อัพเดทสุด ๆ ต้องไปที่รุ่น RS ทีเดียวจบ
สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะซื้อ Honda City Hatchback รุ่นไหน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอสินเชื่อรถเหล่านี้ได้ที่ กรุงศรี ออโต้ ให้บริการโดย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ติดต่อ กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์ โทร. 0-2740-7400และติดตามโปรโมชั่นรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติม รายละเอียดตามลิงก์ด้านล่างนี้
สามารถขอสินเชื่อออนไลน์ได้ที่ด้านล่างนี้ หรือ คลิกเพื่อดูโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะการสมัครผ่านช่องทางออนไลน์
อย่าลืม!..คิดจะออกรถใหม่นึกถึงเรา ยื่นเรื่องง่าย อนุมัติไว วางใจ กรุงศรี ออโต้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์ โทร.
0-2740-7400
ย้อนกลับ