Mazda2 ทำตลาดครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2009 มียอดขายสะสมกว่า 95,000 คัน ตามมาด้วยเจเนอเรชั่นที่ 2 มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟในปี 2015 ขายสะสมสูงถึง 160,000 คัน และการปรับโฉมครั้งล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2019 ที่ผ่านมา มียอดขายสะสมแล้ว 25,000 คัน จากการเอาใจใส่คัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพและสมรรถนะการใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว จนมาถึงล่าสุดกับ Mazda2 2021 Collection จะมีโฉม Hatchback ที่มาในรูปแบบ 5 ประตู แล้วก็ยังมีโฉม Sedan 4 ประตู ให้เลือกกันตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ที่สำคัญคือไม่ว่าโฉมไหนก็ปรับเพิ่มออพชั่นออกมา แต่ราคาขายนั้นเท่าเดิมเหมือนรุ่นก่อนหน้า โดยมีโปรโมชั่นพิเศษ ดอกเบี้ย 0%, ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี มาให้แฟนๆ มาสด้าเพื่อเป็นทางเลือก โดยเราจะมาดูกันที่ตัว Hatchback กันก่อน
Mazda2 เป็นรุ่นเรือธงยอดนิยมอีกทั้งยังก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กรวมอีโคคาร์ และ B-Segment ติดต่อกันนานถึง 3 ปี ระหว่างปี 2017 – 2019 แต่สำหรับ Mazda2 2021 Collection ในตัว Hatchback นั้น มีเลือกทั้งหมด 7 รุ่น แบ่งออกเป็น เครื่องยนต์ SKYACTIV-G 1.3 ลิตร 5 รุ่นย่อย ได้แก่ 1.3 E Sports, 1.3 C Sports, 1.3 S Sports, 1.3 S Sports Leather และ 1.3 SP Sports ส่วน เครื่องยนต์ SKYACTIV-D 1.5 ลิตร นั้นมี 2 รุ่นย่อยคือ XD Sports กับ XDL Sports ซึ่งล้วนได้รับการปรับออพชั่นให้คุ้มค่าเกินราคา อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี แต่ยังคงขับสนุก และปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยมาสด้าตั้งเป้ายอดขายเอาไว้ที่ 30,000 คัน
โดยออพชั่นที่ปรับเพิ่มคือ ระบบการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย หรือ Sport Paddle Shift, กล้องมองหลัง, กล้อง 360 องศา รอบคัน, เทคโนโลยีควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง (GVC Plus) และ ระบบเชื่อมต่อกับ Mazda Connect ที่เชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto
โดยที่ภายนอกของรุ่น Hatchback ทั้งหมด จะมีไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED ส่วนไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED Signature นั้นจะมีตั้งแต่รุ่น 1.3 S Sports ขึ้นไปเท่านั้น ส่วนระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโมัติ, กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว, ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาและฟังก์ชั่นตรวจจับน้ำฝนอัตโนมัตินั้นจะไม่มีใน 1.3 E Sports เท่านั้น ด้านกระจังหน้าสีดำเปียโนกับกันชนหน้าตกแต่งด้วยโครเมียมนั้นจะมีในรุ่น 1.3 S Sports ขึ้นไป สุดท้ายเสาอากาศตั้งแต่1.3 S Sports ขึ้นไปจะเป็นแบบครีบฉลาม
ทางด้านภายในนั้น มาเริ่มกันที่ 1.3 E Sports กันก่อน จะได้เบาะแบบผ้าสีดำ/สีเทา กับแผงคอนโซลหน้าสีดำด้าน ส่วน 1.3 C Sports จะได้เบาะผ้าสีน้ำตาลกับแผงคอนโซลหน้าสีดำเงา แต่พอเป็น 1.3 S Sports จะได้เบาะผ้าสีน้ำเงิน และแผงคอนโซลหน้าหนังสีน้ำเงิน ตั้งแต่รุ่น 1.3 S Sports Leather ขึ้นไป จะได้เบาะหนังสีเทาและผ้า Grand Luxe Suede สีดำกับคอนโซลหนังสีเทา
ด้านระบบ Infotainment ที่ว่าปรับอออพชั่น ระบบเชื่อมต่อกับ Mazda Connect ที่เชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto นั้นจะมีอยู่ใน 1.3 C Sports ขึ้นไป เรียกว่าถ้าคุณเลือกซื้อตัวถูกอย่าง 1.3 E Sports ก็อดไปนั่นเอง ส่วนระบบความปลอดภัยนั้น ก็ได้มีการเพิ่มกล้องมองหลังโดยมีอยู่ใน 1.3 C Sports ขึ้นไป เรียกว่า1.3 E Sports ก็อดอีกแล้ว ส่วน กล้อง 360 องศา รอบคัน นั้นจะมีอยู่ในตัวท็อปของรุ่นอย่าง 1.3 SP Sports ที่ถือเป็นตัวท็อปของ SKYACTIV-G 1.3 ลิตร และ XDL Sports ที่เป็นตัวท็อปของเครื่อง SKYACTIV-D 1.5 ลิตร นั่นเอง
ซึ่งทาง มาสด้า ยังคงเน้นไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ นิสิตนักศึกษา และกลุ่มวัยเริ่มทำงาน ที่มีความใส่ใจในเรื่องของเทคโนโลยี โดยเลือกรถที่ให้ความคุ้มค่า ที่สำคัญมีราคาเป็นมิตร ทั้งยังโดดเด่นด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน
ราคาจำหน่ายของ Mazda2 Hatchback 2021 Collection
- รุ่น 1.3 E Sports 546,000 บาท
- รุ่น 1.3 C Sports 596,000 บาท
- รุ่น 1.3 S Sports 627,000 บาท
- รุ่น 1.3 S Sports Leather 648,000 บาท
- รุ่น 1.3 SP Sports 690,000 บาท
- รุ่น XD Sports 782,000 บาท
- รุ่น XDL Sports 799,000 บาท
สำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของรถ Mazda2 Hatchback 2021 Collection สามารถขอสินเชื่อออนไลน์ได้ที่ด้านล่างนี้ หรือ คลิกเพื่อดูโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะการสมัครผ่านช่องทางออนไลน์
อย่าลืม!..คิดจะออกรถใหม่นึกถึงเรา ยื่นเรื่องง่าย อนุมัติไว วางใจ กรุงศรี ออโต้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์ โทร.
0-2740-7400